มารู้จักเพชรเหลี่ยมกัน ความสวยที่มีสไตล์
อีกทางเลือกที่ราคาสบายกระเป๋า ใส่เก๋ๆ ให้คนทัก เพชรเหลี่ยมก็สวย มีดีไม่แพ้เพชรทรงกลมนะคะ
ชาร์เม่ ขอแนะนำ เพชรทรงสี่เหลี่ยม ที่ใครได้สวมใส่ แล้วจะหลงรัก เป็นเครื่องประดับคู่ใจอีกชิ้นแน่นอนค่ะ
เพชรทรงสี่เหลี่ยมที่จะพาไปรู้จัก 4 แบบ คือ
- เพชรสี่เหลี่ยม Emerald Cut
- เพชรสี่เหลี่ยม Princess Cut
- เพชรสี่เหลี่ยม Radiant Cut
- เพชรสี่เหลี่ยม Cushion Cut
โดย เพชรสี่เหลี่ยม แต่ละแบบแตกต่างกันที่รูปทรง การเจียระไน และ จำนวนเหลี่ยม รวมไปถึงราคา
เพชรสี่เหลี่ยม Emerald Cut หรือ สี่เหลี่ยมมรกต
ได้รับแรงบันดาลใจจากการเจียระไนมรกต มีอีกชื่อที่เรียกกันว่า Step Cut ที่ได้ชื่อนี้เพราะลักษณะการเจียระไนเพชรหน้าสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่เจียระไนตัดมุมทั้งสี่ด้านเรียงกันเหมือนขั้นบั้นได และมุมแหลมทั้ง4ถูกตัดออก แม้จะเห็นได้ชัดเลยว่า มีการส่องประกายเล่นไฟน้อยกว่าเพชรกลม แต่เชื่อไหมว่าเพชรสี่เหลี่ยม Emerald Cut นี้ มีจำนวนเหลี่ยมไม่ได้น้อยกว่าเลย เพราะมีจำนวนเหลี่ยมได้ตั้งแต่ 50-58 เหลี่ยม ไม่ต่างจากเพชรกลมมาตราฐานที่มี 57-58 เหลี่ยมเลย
เพียงแต่ด้วยรูปทรงและการเจียระไนที่แตกต่างกัน จึงทำให้การเล่นไฟของเพชรทั้งสองแบบแตกต่างกันไปด้วย และที่ต้องจำไว้อีกอย่างคือ เมื่อเราเลือกเพชรหน้าสี่เหลี่ยมเมื่อใดก็ตาม ราคาจะถูกกว่าเพชรหน้ากลมเสมอ แม้จะอยู่ที่น้ำหนักเดียวกัน
เพชรสี่เหลี่ยม Princess Cut หรือ ทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส
ถือเป็นเพชรสี่เหลี่ยมจัตุรัสเป็นทรงที่ส่องประกายไฟสวยไม่แพ้เพชรกลมเลยนะคะ เพราะมีคนตั้งชื่อให้ว่า “สี่เหลี่ยมเจียกลม” เพราะมีเหลี่ยมมุมในการเล่นไฟใกล้เคียงกับเพชรกลมมากเลยทีเดียว เป็นการเจียระไนรูปแบบใหม่ที่ให้หน้าเพชรสะท้อนแสงเป็นแนวราบ มีเหลี่ยมเพชรที่มองแล้วคม และความเรียบของเส้นขอบที่สามารถเชื่อมต่อกับตัวเรือนได้สนิท ทำให้เพชร Princess Cut มักถูกเลือกเป็นแหวนหมั้นให้ฝ่ายชาย
ด้วยรูปทรงที่ดูเท่ห์ เรียบง่าย เมื่อขึ้นตัวเรือนกับแหวนทรงผู้ชายแล้วทำให้ดูลงตัวทีเดียวและหากได้รับการเจียระไนที่ดี จะสามารถสะท้อนแสงได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
เพชรสี่เหลี่ยม Radiant Cut
เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีลักษณะการเจียระไนคล้ายกับสี่เหลี่ยม Princess Cut ที่ใช้เหลี่ยมในการทำให้เกิดการเล่นไฟและส่องประกายระยิบระยับแบบทรงกลม
แต่จะมีการตัดมุมนิดหน่อยพองาม เพื่อช่วยทำให้เพชรแข็งแรงขึ้นไม่แตกหักเสียหายได้ง่าย
ถือเป็นทรงลูกผสมของการเจียระไนหลายรูปแบบไว้ด้วยกัน โดยอาจจะมีเหลี่ยมได้ตั้งแต่ 53-70 เหลี่ยม ทำให้เพชรมีการสะท้อนของสีได้สูงที่สุดเมื่อเทียบกับเพชรสี่เหลี่ยมด้วยกัน
เพชรรูปทรงนี้ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีหน้าเพชรจำนวนมากกระจุกอยู่ตรงส่วนรอบๆเพชร ซึ่งทำให้สามารถส่งมอบประกายไฟออกมาได้อย่างเยี่ยมยอด
นอกจากนี้ส่วนของขอบที่เป็นเหลี่ยมตัดนั้น ยังเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในการ Match กับเพชรกลม หรือเพชรเหลี่ยม บนเครื่องประดับเพชรชิ้นเดียวกันอีกด้วย
เพชรสี่เหลี่ยม Cushion Cut
หรือที่รู้จักกันว่า เป็นเพชรสี่เหลี่ยมขอบมน (Cut Diamond) มีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมขอบมน ที่ดูแล้วคล้ายๆกับหมอนอิง (Cushion) และ เนื่องจากส่วนที่โค้งงอที่เจียระไนมาเป็นอย่างดี จึงทำให้สามารถนำพาแสงไฟได้ระยิบระยับมาก
โดยเพชรคุชชั่นคัท มีความแตกต่างจากเพชรรูปทรงอื่น ตรงที่มีตัวเลือกย่อยให้คุณเลือกสรรหลากหลายแบบ เช่น แบบปกติ (Standard) แบบประยุกต์ (Modified) และแบบโมเดิร์น (Modern)
ชาร์เม่ มีเคล็ดลับการเลือกซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าเพชรคุชชั่นคัทของเรา ดูสมส่วนและเล่นไฟได้อย่างดีเยี่ยม ควรมองหา แบบที่มีความลึกและหน้ากว้างไม่เกิน 70% และ
ข้อดีที่เด่นของเพชรคุชชั่นคัท คือ มีหลายตัวเลือก ทำให้สามารถนำมาออกแบบได้ตามแบบที่ชอบได้ง่าย อีกทั้งยังให้ความรู้สึกหรูหรา และเป็นแฟชั่นคลาสสิกที่มีกลิ่นอายของความโมเดิร์นอยู่
เราได้รู้จักเพชรรูปทรงสี่เหลี่ยมทั้ง 4 แบบ แต่ละแบบที่มีความสวยงาม โดดเด่นแตกต่างกันไป แม้จะส่องประกายเล่นไฟได้ไม่เท่ากับเพชรกลม
แต่เพชรสี่เหลี่ยมก็มีความสวยงามและมีสไตล์เป็นของตัวเอง แถมราคาก็ยังถูกกว่าอีกด้วย เครื่องประดับชิ้นต่อไป เพชรเหลี่ยมเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ